ขนมจัดเบรก / snack box / ขนมจัดเลี้ยงงานต่าง ๆ

ขายส่งเครปเย็น เครปโรล (ราคากันเอง ไม่แพงจ้า)

   บ้านส้มซ่าเบเกอรี่ (เวอร์ชั่นใหม่)  
หน้าแรก กระดานข่าว สมุดเยี่ยม ดาวน์โหลด แผนที่เว็บ - หน้ารวมสูตรอาหาร
   เรียนทำเบเกอรี่ภูเก็ต »15«   
   อาหารไทย - กับข้าว »73«  
   ขนมไทย »21«  
   ขนมปัง »20«  
   ขนมเค้ก/คัพเค้ก/มัฟฟิน »30«
   ขนมอร่อยไม่ต้องอบ »14«  
   ขนมหวานอื่น ๆ »33«  
   คุกกี้/บราวนี่ »28«  
   ชีสเค้ก/ชีสพาย »5«  
   ทาร์ต/พาย/โดนัท »5«  
   แต่งหน้าเค้ก »7«  
   อุปกรณ์ทำขนม »10«  
   อาหารญี่ปุ่น »12«  
   อาหารเพื่อสุขภาพ »4«  
   อาหารว่าง/ของทานเล่น »17«  
   อาหารเด็ก »1«  
บทความเกร็ดความรู้
   เกร็ดความรู้ก้นครัว »11«  
   เกร็ดความรู้สุขภาพ »28«  
   ประวัติขนมและอาหาร »8«  
   รวมบทความน่าสนใจ »51«  
   เคล็ดลับผู้หญิงกับเงิน »9«  
 

แจ้งรายการส่งของลูกค้า(กระทู้)

ตรวจสถานะ ได้หลังจากฝากส่ง 24 ชม.
โดยกรอกเลข 13 หลัก..ลงท้ายด้วย TH

* ไปรษณีย์ไทย (เช็คพัสดุ/EMS)

 
 
แนะนำเว็บนี้ให้เพื่อนรู้ แนะนำเว็บนี้ให้เพื่อนรู้
Add to Favorites Add to Favorites (IE) !!
กรอก Email เพื่อรับหลักสูตรตารางเรียนใหม่ รวมถึงสูตรขนมและอาหาร ฟรี !! (ช่องด้านล่าง)

feedburner

 
 
สำหรับสมาชิก

จำการเข้าใช้งาน


คนคุ้นเคย : 0
 
คนหลงทาง : 1
 
สถิติการเยี่ยมชม
  
มาดูวันนี้ :22
มาดูเมื่อวานนี้ :11
มาดูต่อวันสูงสุด :12,441
มาดูเดือนนี้ :364
มาดูทั้งหมด :14,104,677
 
 
ขณะนี้คุณกำลังอยู่ที่ :  ส้มซ่าดอทคอม » เกร็ดความรู้สุขภาพ » เคล็คลับการเลือกน้ำมันพืช


เคล็คลับการเลือกน้ำมันพืช (Tips for Choosing Cooking Oils)


เคล็คลับการเลือกน้ำมันพืช

เคล็คลับการเลือกน้ำมันพืช (Tips for Choosing Cooking Oils)

น้ำมันพืชถือเป็นวัตถุดิบสำคัญอย่างหนึ่งในการประกอบอาหาร และปัจจุบันก็มีน้ำมันพืชหลายชนิดให้เลือกรับประทาน เพื่อเป็นแนวทางและไม่ให้เกิดการสับสนกับการใช้งานวันนี้มีข้อแนะนำการเลือกใช้น้ำมันพืชมาฝากกันค่ะ

น้ำมันถั่วเหลือง

อย่างไรก็ดีสิ่งที่เราต้องคำนึงถึงในการเลือกซื้อน้ำมันนั้นเราต้องดูใน เรื่องของ "จุดเกิดควัน หรือ Smoking Point" ของน้ำมัน เพราะหากน้ำมันถูกทำให้ร้อนเกินกว่าจุดเดือดของมัน น้ำมันจะเป็นพิษ (Toxin) และมีอันตรายต่อร่างกายได้ ดังนั้นเราลองมาดูกันว่าน้ำมันแต่ละชนิดมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
น้ำมันรำข้าว เหมาะสำหรับการทำอาหารไทยทุกประเภท ทั้งสลัด ผัด ทอด ขนมอบ มีจุดเกิดควันสูงกว่าน้ำมันพืชทั่วๆไป มีสารต้านอนุมูลอิสระเช่น วิตามินอี ในกลุ่มโทโคฟี กลุ่มโทโคไตรอีนอล และโอรีซานอล (Oryzanol) ซึ่งสามารถต้านอนุมูลอิสระได้ดีกว่าวิตามินอีถึง 6 เท่า

น้ำมันถั่วเหลือง เหมาะสำหรับการทำอาหารแทบทุกประเภท เพราะมีจุดเกิดควันค่อนข้างสูง มีรสเป็นกลาง (Neutral flavour) สามารถนำไปทำน้ำสลัดได้เหมือนกัน เช่นน้ำสลัดญี่ปุ่น แต่อาจจะไม่เหมาะนักถ้าสมาชิกในครอบครัวไม่ชอบน้ำมันที่มีความเข้มข้น (Heavy texture)

น้ำมันมะกอก มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวมากที่สุด เป็นน้ำมันที่มีหลายเกรด และแต่ละเกรดก็สามารถนำไปประกอบอาหารได้ดีแตกต่างกันไป เช่น

*Extra Virgin เป็นน้ำมันมะกอกสีค่อนข้างเขียว เหมาะสำหรับอาหารจานเย็นทั่วไปเช่นสลัด

*Pure Olives Oil, Refined Olives Oil น้ำมันมะกอกประเภทนี้จะผ่านกระบวนการมากกว่าน้ำมันแบบ Extra Virgin ซึ่ง Pure Olives Oil, Refined Olives Oil จะมีกลิ่นอ่อนกว่า สีจางกว่า เหมาะสำหรับทำอาหารทั่วไป เช่นการผัด สปาเก็ตตี้ กระทะย่าง ยกเว้นการทอดที่ใช้ความร้อนสูง

น้ำมันงา

น้ำมันดอกทานตะวัน เป็นน้ำมันที่มีเนื้อบางเบาและไร้กลิ่น เหมาะสำหรับทำสลัด และการผัด แต่ไม่เหมาะสำหรับการทอดเพราะมีจุดเกิดควันต่ำ

น้ำมันดอกคำฝอย มีลักษณะคล้ายน้ำมันดอกทานตะวัน และนำไปประกอบอาหารได้เหมือนกับน้ำมันดอกทานตะวัน ซึ่งนำไปประกอบอาหารได้เหมือนกับน้ำมันดอกทานตะวัน

น้ำมันข้าวโพด เป็นน้ำมันที่เหมาะกับการทอดที่ใช้น้ำมันมากเพราะทนความร้อนสูงที่สุด น้ำมันข้าวโพดส่วนใหญ่เมื่อเย็นจะไม่มีกลิ่นแต่ถ้าได้รับความร้อนมากขึ้น จะเริ่มมีกลิ่นของข้าวโพดเล็กน้อย

น้ำมันงา เหมาะสำหรับปรุงแต่งกลิ่นของอาหารหลังจากทำเสร็จแล้ว เพราะทนความร้อนแทบไม่ได้เลย แต่ใส่เพื่อลดกลิ่นคาวในปลาหรืออาหารทะเลที่จะนำไปต้มหรือลวกได้ดี

น้ำมันปาล์ม หรือน้ำมันพืช มักเป็นน้ำมันผสมระหว่างน้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าว หรือเมล็ดผักอย่างอื่นที่มีราคาถูก มีจุดเกิดควันสูง เหมาะสำหรับทำอาหารผัด ทอด หลากชนิด แต่ไม่ดีเลยสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื้อรังคลอเลสเตอรอล เพราะมีไขมันอิ่มตัวสูงมาก

น้ำมันดอกทานตะวัน

Canola Oil หรือ Rapeseed Oil เป็นน้ำมันที่มีไขมันอิ่มตัวต่ำที่สุดในบรรดาน้ำมันทั้งหลาย และมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวมากเป็นอันดับสอง รองจากน้ำมันมะกอก น้ำมันชนิดนี้สามารถทำอาหารได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะทอด ผัด หรือทำน้ำสลัด เพราะเป็นน้ำมันที่มีจุดเกิดควันสูง

น้ำมันเมล็ดองุ่น (Grape seed Oil) มีความบางและมีกลิ่นหอมอ่อนๆเหมาะสำหรับสลัดและการผัดด้วยไฟอ่อนๆและทอดด้วยไฟอ่อน และเหมาะที่สุดสำหรับการทำฟองดูเนื้อ

Walnut Oil มีกลิ่นหอมของ walnut ซึ่งสามารถเพิ่มรสให้กับสลัดได้ โดยเฉพาะโรย Walnut ในสลัดผักโขมอ่อน (Baby Spinach) น้ำมันชนิดนี้ มีราคาค่อนข้างแพงและเสียง่าย ดังนั้นควรเก็บในตู้เย็น

Cottonseed Oil เป็นน้ำมันที่มีกลิ่นและเนื้อสัมผัสคล้ายๆกับRapeseed oil ส่วนมากใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร

ทั้งหมดนี้เป็นประเภทของน้ำมันต่างๆที่เราสามารถเลือกใช้ได้ตาม จุดประสงค์ เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าปัจจุบันโรคหลอดเลือดหัวใจตีบพบมากขึ้นในคนไทย ซึ่งส่วนหนึ่งเนื่องมาจากพฤติกรรมการบริโภคอาหารเปลี่ยนไป เมื่อเกิดโรคขึ้นแล้ว ก็ไม่หายขาด แถมค่ายา ค่าการตรวจต่างๆ ค่ารักษา ล้วนมีราคาแพงขึ้นทุกๆวัน ดังนั้นการป้องกันโรคจึงน่าจะเป็นหนทางที่ดีที่สุด หลักการสำคัญในการป้องกันโรคหัวใจ คือ การลดพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆลง การรับประทานอาหารที่มีไขมันคลอเลสเตอรอลต่ำ ก็เป็นหนทางหนึ่ง ดังนั้นการเลือกใช้น้ำมันในการปรุงอาหารจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรคำนึงถึงด้วย

ขอขอบคุณข้อมูลดี ๆ จากวิชาการดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก google

คำค้นหาหน้านี้ เคล็คลับการเลือกน้ำมันพืช (Tips for Choosing Cooking Oils) (5 รายการล่าสุด)

  • March 12, 2018 at 11:27 AM - น้ํามันสําหรับทําเค้ก (49.48.250.186 via Google)
  • August 22, 2017 at 8:56 AM - น้ํามันทําขขนมดีที่สุด (172.68.242.109 via Google)
  • February 17, 2017 at 10:27 AM - น้ํามันที่ใช้ทําเค้ก (223.205.244.11 via Google)
  • February 14, 2017 at 3:53 PM - น้ำมันที่ใช้สำหรับทำเค้ก (134.196.45.53 via Google)
  • January 22, 2017 at 10:38 PM - ไขมันถั่วเหลืองทอดเบเกอรี่ (171.7.143.93 via Google)
เคล็คลับการเลือกน้ำมันพืช

เคล็คลับการเลือกน้ำมันพืช (Tips for Choosing Cooking Oils)


เคล็คลับการเลือกน้ำมันพืช (Tips for Choosing Cooking Oils) , หมวด เกร็ดความรู้สุขภาพ
วันที่ปรับปรุง : 18 พฤษภาคม 2555 23:59 น.
วันที่เขียน : 18 พฤษภาคม 2555 23:38 น.
ผู้เยี่ยมชม เคล็คลับการเลือกน้ำมันพืช ทั้งหมด 47,574 x คนดู
โหวตให้คะแนน (3 votes, average: 5 out of 5)